ข้อแนะนำสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำ (Transit/Transfer Flight)

ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย สำหรับอากาศยานทำการบินในเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำ (Transit/Transfer Flight) โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป

1. อนุญาตให้อากาศยานทำการบินในเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำ (Transit/Transfer Flight) ได้เฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
2. ผู้โดยสารต้นทางจะต้องมีเอกสาร ใบรับรองแพทย์ ที่ยืนยันว่าไม่มีเชื้อโควิด –19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID – 19 is not detected) โดยวิธี RT-PCR และกรมธรรม์ประกันภัย (Insurance) ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล รวมทั้งกรณีโรคโควิด – 19 ในระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร 100,000 USD
3. กำหนด Sealed route โดยจัดพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานไม่ให้ออกนอกพื้นที่ที่กำหนด

4. การรอในพื้นที่ Transit/Transfer ต้องจัดระยะห่างระหว่างผู้โดยสาร และเน้นย้ำให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 70%
5. มีจุดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่รอ Transit/Transfer ที่จัดไว้เป็นสัดส่วน และมีการจัดการดูแลความเรียบร้อยในช่วงระยะเวลาการใช้บริการ
6. มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค (Disinfection) พื้นที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
7. กำหนดเวลา Transit/Transfer ไม่เกิน 12 ชม.
8. ไม่มีการตรวจคัดกรองและไม่มีบริการการตรวจแล็ป COVID-19 ทางห้องปฏิบัติการ ณ จุด Transit/Transferที่ท่าอากาศยาน
9. กรณีตรวจพบผู้โดยสารมีอาการหรือมีไข้ ให้สายการบินที่รับขนผู้โดยสารเข้ามาเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ
10. หลีกเลี่ยงประเทศต้นทางที่มีความเสี่ยงสูงในการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
11. ผู้ดำเนินการเดินอากาศต้องจัดส่งแผนการทำการบิน Transit/Transfer มายังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และศูนย์ควบคุมปฏิบัติการเขตการบิน (AOCC) ทสภ. ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ก่อนทำการบิน

อ้างอิงข้อมูลจาก www.caat.or.th