ในยุคปัจจุบันการเดินทางก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้มากมาย และหนึ่งในการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วที่สุดก็คงจะเป็นการโดยสารผ่านเครื่องบิน เพราะประหยัดเวลาและค่อนข้างสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ซึ่งพอมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินมีอยู่กี่ระดับ ที่นั่งแต่ละระดับชั้น จะได้รับการบริการและความสะดวกสบายอย่างไรบ้าง เราจึงได้เตรียมคำตอบและคำแนะนำต่างๆ มาให้แล้ว
ที่นั่งแต่ละระดับชั้น บนเครื่องบินโดยสารนั้นมีอะไรบ้าง !
ชั้นที่นั่งบนเครื่องบินนั้นก็จะมีหลากหลาย โดยแต่ระดับชั้นก็จะได้รับการบริการและความสะดวกสบายที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจึงต้องมีการเลือกระดับความต้องการของผู้โดยสารก่อนเดินทางทุกครั้ง ในส่วนของตั๋วเครื่องบินนั้นจะมีการเขียนลงไปเลยว่าตั๋วที่เราได้เลือกซื้อนั้นเป็นชั้นไหน โดยสังเกตตรงช่อง CLASS จะพิมพ์ตัวอักษรไว้อย่างชัดเจน เช่น F, C, Y, W เป็นต้น ซึ่งสายการบินทั่วไปจะมีการจัดชั้นที่นั่งแบ่งเป็น 4 ระดับดังนี้
1. ชั้นหนึ่ง ( First class ) หรือ F class
ชั้น F class นี้ จัดเป็นชั้นที่มีการให้บริการที่พิเศษสุด มีที่นั่งกว้างขวาง หากง่วงก็สามารถปรับเป็นที่นอนได้ ซึ่งที่นั่งส่วนใหญ่จะอยู่หลังห้องนักบิน เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้างและเป็นส่วนตัว ดังนั้นจึงไม่มีผู้โดยสารจากชั้นที่นั่งอื่นมาเดินผ่านบริเวณนี้เลย พื้นที่ส่วนนี้จึงสะดวกสบาย เงียบและไม่วุ่นวาย ในเรื่องของกินก็จะมีอาหารชนิดพิเศษแตกต่างกันไปรวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ประเภทต่างๆ อีกพอสมควร นอกจากนี้ยังมีสิ่งบันเทิงอีกมากมายให้บริการอีกด้วย ที่สำคัญยังสามารถนำสัมภาระติดตัวไปได้ค่อนข้างมาก แต่ไม่เกิน 40 กก. ต่อคน
สายการบินจะเลือกใช้รหัสในการออกตั๋ว ดังนี้
2.ชั้นธุรกิจ ( Business Class ) หรือ C class
ชั้น C class เป็นชั้นที่มีบริการและอาหารพิเศษรองจากชั้นหนึ่ง รวมถึงอีกหลายบริการที่เป็นรองเพียงแค่ชั้นหนึ่งเท่านั้น มีเพียงเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ที่ไม่แตกต่างกันกับชั้นหนึ่งมากนัก ซึ่งที่นั่งชั้นธุรกิจโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่างกลางกับที่นั่งชั้นหนึ่งและที่นั่งชั้นประหยัด อีกทั้งยังสามารถนำสัมภาระติดตัวไปได้มาก โดยปกติแล้วจะให้สัมภาระติดตัวไม่เกิน 30 กก. ต่อคน
สายการบินจะเลือกใช้รหัสในการออกตั๋ว ดังนี้
3.ชั้นประหยัดพลีเมี่ยม ( Premium economy Class ) หรือ W class
ที่จริงแล้วชั้น W class นั้นถือกำเนิดขึ้นมานานพอสมควรแล้ว แต่พึ่งจะได้รับความนิยมเมื่อไม่กีปีมานี้ รวมๆแล้วคอนเซ็ปต์ของชั้นที่นั่งนี้จะเป็นชั้นที่อยู่กึ่งกลางระหว่างชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจ หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ที่นั่งจะกว้างขวางเทียบเท่าชั้นธุรกิจ แต่ในด้านบริการนั้นจะเหมือนกับชั้นประหยัดนั่นเอง เช่น อาหารการกิน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ส่วนเรื่องราคานั้นย่อมต้องแพงกว่าชั้นประหยัดแต่ก็ถูกกว่าชั้นธุรกิจ ซึ่งชั้นที่นั่งนี้จะไม่เปิดให้บริการในทุกเส้นทาง แต่ส่วนมากมักจะเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างใกลพอสมควร อย่างเช่น บินไปยุโรปหรืออเมริกา นั่นเอง
4. ชั้นประหยัด ( Economy Class ) หรือ Y class
สำหรับชั้นที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่เลือกนั่งคงหนีไม่พ้น Y Class เพราะเป็นชั้นที่นั่งประหยัด ซึ่งที่นั่งชั้นประหยัดนี้โดยทั่วไปจะเริ่มตั้งแต่ส่วนกลางของเครื่องบินไปจนถึงส่วนท้ายของตัวเครื่อง จึงทำให้มีจำนวนที่นั่งมากที่สุดแต่ทว่าไม่สามารถปรับนอนได้นั่นเอง สำหรับอาหารและเครื่องดื่มก็มีให้บริการฟรีแต่จะเป็นแบบธรรมดาทั่วไป ส่วนในเรื่องสัมภาระนั้นก็สามารถนำติดตัวไปได้แต่ว่าค่อนข้างน้อย ซึ่งจำกัดน้ำหนักอยู่ที่ไม่เกิน 20 กก. ต่อคนเท่านั้น
สายการบินจะเลือกใช้รหัสในการออกตั๋ว ดังนี้
บริการทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะมีอยุ่ในสายการบินโดยทั่วไป แต่ก็จะมีสายการบินเฉพาะบางพื้นที่ที่มีการปรับเปลี่ยนการให้บริการแตกต่างกันออกไปบ้างตามความเหมาะสม ดังนั้นแล้วควรจะเช็คข้อมูลและบริการของสายการบินต่างๆ ก่อนที่เราจะเลือกซื้อตั๋วเครื่องบินให้ดีและถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเรานั่นเอง